Software is King

version 1.0 , 10:55 Feb 6/2025 +7

สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในสายเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อาจยังเบลอๆอยู่ ว่า อะไร hardware อะไร software คร่าวๆ นิด software ก็คือโปรแกรม หรือรหัสคำสั่ง ที่คอยสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ มันคำนวน มันแสดงผล มันส่งข้อมูลไปโน่นนี่ รับข้อมูล อะไรทำนองนี้ เหมือนอย่างหน้าเว็บนี้ มันก็มี software ที่เรียกว่า web server เป็นตัวเก็บไฟล์ต่างๆไว้ พอ web browser จากทุกคนมาเปิด มันก็แสดงออกที่หน้าจอของเรา เราก็อ่านได้ เห็นภาพต่างๆ วีดีโอ อะไรแบบนั้น นี่คือ ซอฟท์แวร์ เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง ง่ายๆ ส่วน hardware ก็คือพวกเครื่องทั้งหมด จับต้องได้ โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุค iPad/Tablet อะไรพวกนี้ ถือเป็น hardware ทั้งหมด ทีนี้ตัว hardware มันก็จะกลายเป็น เหล็ก ธรรมดาๆ ถ้าไม่มีซอฟท์แวร์ มาทำงาน ถ้าเปรียบไปก็เหมือนร่างกายเป็น hardware ส่วนสมอง คือ software นั่นเอง มันคือสมองของคอมพิวเตอร์นั่นเองเนาะ ประมาณนี้ คร่าวๆ

พอเข้าใจเบื้องต้นแล้วเนาะ ทีนี้เรามาคุยกันว่า แบ่งประเภทซอฟท์แวร์ยังไง ก็แบ่งได้หลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ แต่ในนี้เราอยากแยกออกเป็น 2 ส่วน

แบ่งง่ายๆ แบบนี้เพื่อแยกให้รู้ว่า ทุกวันนี้ใครมีโทรศัพท์มือถือ ก็จะรู้จักพวก app ต่างๆ นั่นแหละคือซอฟท์แวร์ ทีนี้พวกนี้เป็นซอฟท์แวร์ที่เราใช้คนเดียว ใช้ส่วนตัว ว่างั้นเถอะ เช่นพวก social media, email, web browser อะไรต่างๆ แอพธนาคาร ทุกอย่าง คือใช้งานคนเดียว ไม่ยุ่งกะคนอื่น ไม่ได้ใช้งานกันหลายๆคน เป็นองค์กร อะไรต่างๆ แบบนี้ เราเรียกว่า ส่วนบุคคล เนาะ

มาดูซอฟท์แวร์ธุรกิจ หรือที่ใช้ในองค์กรบ้าง ไอ้ตัวนี้เขาออกแบบมา สำหรับใช้งานร่วมกัน หลายๆคน ในองค์กรนึงก็มีหลายคน หลายบทบาท (ตำแหน่ง) มีกฎระเบียบต่างๆ มีเขาเรียก work flow คือการไหลของงาน การส่งต่องานให้กันและกัน ว่างั้น ตรงนี้แหละ ที่มีการใช้งานซอฟท์แวร์เพื่อองค์กร บางทีเราได้ยินคำว่า business application, business software อะไรพวกนี้ ก็จะเป็นพวกนี้ ที่เขาทำมาเพื่อใช้งานร่วมกัน สำคัญมาก สำหรับซอฟท์แวร์ประเภทนี้ เพราะมันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ ขององค์กร ได้มากมาย ง่ายๆ ดูว่า องค์กรเดี๋ยวนี้ ใช้คนน้อยกว่าสมัยก่อน เยอะมาก ยกตัวอย่าง แผนกบัญชี-การเงิน สมัยก่อนบริษัทใหญ่ๆ มีพนักงานบัญชี เฉพาะแผนกนี้ มีคนบางทีเป็นร้อยๆ คน บริษัทย่อมๆลงมาก็มีเรียกว่า เป็นสิบๆคน เป็นภาระ ต้นทุน ของธุรกิจมหาศาล แต่เดี๋ยวนี้ ไปดู ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมบัญชี จัดการเบ็ดเสร็จ ทำให้ลดคนในแผนกนี้ลงไปได้มหาศาล ต้นทุนธุรกิจก็ลดลง ๆ มีกำไรมากขึ้น นี่เป็นตัวอย่างเดียวที่ยกให้ดู ยังไม่นับแผนกอื่นๆ ที่ได้ประโยชน์จาก software ธุรกิจพวกนี้อีกมาก

ในที่นี้เราจะเน้นเรื่องซอฟท์แวร์องค์กรเป็นหลัก เพราะนี่เป็นสายของเรา ทีนี้ จะยกตัวอย่างให้ดูว่า ซอฟท์แวร์อย่างพวกธุรกิจเนี่ยเขาทำอะไรบ้าง เช่น

อันนี้เป็นตัวอย่าง ในแต่ละองค์กร โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ธุรกิจ เช่นภาครัฐ เขาก็มีงาน-หน้าที่ แต่ละอย่าง ๆ ไม่เหมือนกัน เขาก็ต้องการซอฟท์แวร์ เฉพาะ ต่างๆกันไป ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยิบย่อยมากๆ

ทีนี้จะบอกว่า เทคโนโลยีซอฟท์แวร์สำหรับองค์กรพวกนี้ ถ้าจะเล่าก็ยาว มันผ่านยุคต่างๆมามากพอสมควร ยุคก่อนหน้านี้ เป็นยุคที่ยังไม่มี social media สมมุติเรียกว่ายุค pre-social-media ก็แล้วกัน ส่วนใหญ่ตอนนี้องค์กรทั้งหลาย ยังใช้งานซอฟท์แวร์ที่เป็นยุค pre นี่แหละ คือ ใหญ่โต เทอะทะ ลงทุนมหาศาลนะ พวกนี้ ไม่อยากพูดถึงยี่ห้อ คนในวงการจะรู้จักกันดี ว่ามีไรบ้าง แต่ลงทุนมหาศาล เขานับเป็นจำนวน user เลย เวลาขาย ทีนี้ลองดู บริษัทขนาดใหญ่ๆ มีเป็นพันๆ หมื่นๆ user จะต้องลงทุนเท่าไหร่

คิดว่าจะตัดจบเท่านี้ก่อน ถือว่าเป็นตอนที่ 1 เดี๋ยวจะมีต่อไปเรื่อยๆ ว่าด้วยเรื่อง software แต่เราจะเน้นที่ของธุรกิจองค์กร มากหน่อย ของส่วนบุคคลอาจมีแซมด้วยบ้าง จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้วิวัฒนาการไปไกลมาก ทีนี้จะบอกว่า ซอฟท์แวร์เก่าๆ ขององค์กรทั้งหลาย มันล้าสมัยแล้ว คงจะต้องทยอยเปลี่ยนมาเป็นของใหม่ๆ ราคาการลงทุนไม่แพงเหมือนสมัยก่อน และมีประสิทธิภาพสูง เทียบศักยภาพต่อเม็ดเงินลงทุนแล้ว คนละเรื่อง ลองนึกดูว่า คนลงทุนกับเครื่องยักษ์ระดับ mainframe สมัยก่อน สิ่งที่ได้ เทียบกับประสิทธิภาพเครื่องและซอฟท์แวร์สมัยนี้ เรียกว่า ฟ้ากับเหว และการลงทุนที่ใส่ไป ก็ฟ้ากับเหว เช่นเดียวกัน เอาไว้มาว่ากันต่อ