การตลาดดิจิตอลทำยังไง? @nex-era

ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกดิจิตอล กันแล้ว การใช้ชีวิต การทำมาหากิน ธุรกิจ การตลาด ทำมาค้าขาย ต่างก็กลายเป็นแบบดิจิตอล กันไปหมด ดังนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องทำการตลาด แบบดิจิตอล ด้วย แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ว่าจะทำยังไง หรืออีกส่วนหนึ่ง ก็ยังติด กับการทำตลาดแบบเดิมๆ ซึ่งมันล้าสมัย ไม่ได้ผล อีกต่อไป

เรามาสรุปกันคร่าวๆ ว่าจะทำ digital marketing นั้น จะต้องทำไรบ้าง หลักๆ

Content
Frequency
Conversation
Action

หมายเหตุ

อย่าเอาบทความนี้ไปเทียบกับตำราอะไร เพราะมันคนละยุคสมัยแล้ว ตำราพวกนั้นตามไม่ทันแล้ว โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจ การตลาด อะไรก็ตาม ตอนนี้เป็น new games, new tactics กันหมดแล้ว

Content

มาเรื่องเนื้อหา (Content) หรือจะว่า Message หรือ ข้อความ ก็ได้ แต่เราเรียก content ก็แล้วกัน จะได้ฟังง่ายๆ content นี่ เราต้องเลือก ให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่าทำไร มั่วๆ ไป มันจะเสียแรงเปล่า ยกตัวอย่างเช่น content มันมี 2 อย่าง คือ Short กับ Long อันนี้ basic พื้นฐานก่อน แต่ว่า ไม่ใช่พื้นฐานทฤษฎี marketing ที่เรียนกันมาแบบโบราณ นะ ขณะนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปมากแล้ว ทฤษฎีเดิมๆ ไม่ work แล้ว สมัยนี้

หลักการของ content ยุคใหม่ ต้องเปลี่ยนมาดังนี้ คือ เราต้องมี short content เพื่อเอาไว้ ดัก หรือ เกี่ยว (คล้ายๆ เบ็ด) ที่จะคอย catch คนที่สนใจ ซึ่งกรณีนี้ จะเป็น content สั้นๆ ดีที่สุด เป็น video หรือจะเอาโพสธรรมดาๆ มีรูปซักรูป 2 รูป ก็ได้ !!ข้อสำคัญ เคล็ดลับ เลย คือต้องมี ไม่รูป ก็ video ไม่งั้นมันไม่ catchy ไม่น่าสนใจ คนก็เลื่อนผ่านหมด

ดังนั้น short content อีกภาษาเรียกว่า vertical content คือเนื้อหา แนวตั้ง เพราะคนจะดูจากมือถือ ที่เขาถือแนวตั้งอยู่ แล้ว เลื่อนๆ (swipe) หรือแสกนผ่านไปเรื่อยๆ ดังนั้นเรามีเวลา ไม่กี่วินาที ที่จะ หยุด เขา ไม่ให้เลื่อนผ่าน ...ตรงนี้จึงเรียกว่า short content, vertical content หรือบ้านๆ เรียก เบ็ด หรือ hook content ก็ได้

จากนั้นเราต้องมี main content หรือ long content เพื่อให้ใครที่สนใจจริงๆ เข้ามาดู ยาวๆ นานๆ ถ้าเป็นตัวหนังสือ ก็ยาวเป็นหน้าๆ จะมีรูป มี video ไรก็ว่าไป สรุปว่า พอนึกออกเนาะ ระบบ content เราจะต้องทำออกมา 2 แบบนี้ เพราะเรารู้แล้ว คนส่วนใหญ่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง สมมุติหลักหลายพันล้านคน (ตัวเลขจริงนะ ไม่ได้สมมุติ) เขาจะดูมือถือ แนวตั้งกัน แล้วดู feeds แบบเร็วๆ (ดูจากพวก tiktok, youtube shorts, facebook reels, instagram reels, พวกนั้น)

! เรื่องนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน เพราะหากเอากันจริงๆ ต้องคุยอีกยาว เรื่องการทำ content มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ และสมัยนี้ก็มี เครื่องมือ ให้เราใช้มากมาย เอาไว้เขียนเรื่องนี้โดยเฉพาะอีกที

Frequency

เรื่องนี้ จริงๆ แม้เป็น marketing แบบเก่า ก็ต้องทำอยู่ดี แต่ว่า พอยุค digital นี่ก็ยิ่งต้องทำมากเข้าไปอีก อันนี้เราพูดถึงการทำ marketing แบบ organic นะ คือไม่ใช่ ไปจ่ายค่า ad ให้พวก app เยอะๆ อะไรพวกนั้น ดังนั้น ความถี่ / frequency ของการสื่อสาร ต้องมากพอ ไม่งั้น wave มันไม่มากพอ คลื่นไม่มีแรงพอที่จะกระทุ้งเรือให้กระเพื่อม ว่างั้น

การแชร์ หรือทำ content บ่อยๆ จะทำให้ โอกาส ที่คนจะเห็นก็มากขึ้น โดยเฉพาะ hook content เราอาจทำ 4-5 แบบ แล้วโพสไป บางคนอาจเห็นแบบหนึ่ง อีกคนอาจเห็นอีกแบบหนึ่ง อยู่ที่ว่าอันไหนจะ hook ได้ สรุปว่า ความถี่ เป็นเรื่องสำคัญ ต้องทุกวัน วันละหลายๆ โพส อาจเป็นเนื้อหาใกล้เคียงกันก็ได้ ปรับแง่มุมต่างๆนิดหน่อย แล้วแชร์ออกไป จะทำให้เกิด การเห็น (หรือ view ได้มากขึ้น)

Conversation

การตลาดสมัยนี้ แตกต่างจากการตลาดยุคโบราณ คือ มันคุยกันได้ หรือภาษาอังกฤษว่า มันทำ conversation กันได้ ไม่ใช่แบบ ทางเดียว หรือ แห้งๆ อีกต่อไป ดังนั้น ใน social มันคุยได้ เขาสามารถ comment มาที่เนื้อหาเรา ว่าอะไรยังไง ดังนั้น เราจะต้องมีการ โต้ตอบ กับเขาด้วย ไม่ใช่ โพสเสร็จแล้ว ลืมหรือหนี ไปเลย แบบนั้น ไม่เกิด conversation ทำให้มันเกิดการพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนกัน เหมือนเราคุยกันทั่วไป แต่นี่เป็น online เฉยๆ

ถ้าหากมีการคุยกันแบบนี้ ก็จะมีส่วนช่วย กระตุ้น หรือทำให้ข้อความของเรา ได้รับรู้มากขึ้น มีคนเห็นมากขึ้น ไม่เงียบ ในโพสใน social บางทีเราไปดู แค่โพสธรรมดา ๆ มีรูป ข้อความนิดหน่อย 1 ย่อหน้า บางที คนเห็นหลายล้านคน มีการแชร์ต่อ มีการ comment ต่างๆ มี impact มาก

Action

การตลาดยุคดิจิตอล เราต้องทำให้เกิด action ให้ได้ นั่นคือ มันสามารถนำไปสู่การซื้อขาย ได้ทันที เช่น พอเขาเห็นปุ๊ป เกิดสนใจ เขาสามารถ กด ซื้อ ได้ทันที ไม่ต้องรอช้าอะไรมากกว่านั้น ดังนั้น การออกแบบ การตลาดยุคใหม่นี้ จะต้องมองให้ครบ loop คือต้องพาลูกค้ามาสู่ การซื้อขาย ให้ได้

โดยอาจทำเป็น order form ซึ่งสมัยนี้ทำไม่ยาก แต่ที่เราคุยกันอยู่นี่ บางที อาจจะล้ำหน้า สิ่งที่เป็นจริง อยู่บ้าง เพราะขณะนี้ คนยังทำกันไม่ครบ loop ดังนั้น ใครจะเป็นนักการตลาด digital แบบมืออาชีพ จะต้อง วางแผน ออกแบบ ให้มันสมบูรณ์แบบ คือทำครบ loop ที่เราคุยกันมานี้ทั้งหมด ถ้าทำได้ การตลาด กับการขาย ก็แทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ต้องแยกให้เสียเวลาอีกต่อไป

สำหรับบทนี้ จะเอาไว้เท่านี้ก่อน ถือเป็น ตอนที่ 1 แล้วเราค่อยๆต่อความยาวไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็เริ่มยาวแล้ว อ่านเมื่อย :-)